การทำงานใกล้เปลวไฟหรือต้องอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง เป็นสภาวะแวดล้อมที่หลาย ๆ อาชีพปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันอันตราย เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในการทำงาน ทำให้ผ้ากันไฟกลายเป็นวัสดุสำคัญที่นำไปใช้ผลิตยูนิฟอร์ม ชุดหมี หรือชุดเซฟตี้ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากไฟ ความร้อน หรือสะเก็ดไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับ “ผ้ากันไฟ” และ “ผ้ากันความร้อน” ตั้งแต่ความหมาย คุณสมบัติ ไปจนถึงประเภทของเนื้อผ้าที่เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทาง
ผ้ากันไฟ คืออะไร เข้าใจความหมายก่อนเลือกใช้งาน
ผ้ากันไฟ คือเนื้อผ้าชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อต้านทานการติดไฟ ป้องกันไม่ให้ไฟลุกลาม หรือชะลอการลุกไหม้เมื่อต้องสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรง ผ้าประเภทนี้จึงช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับไฟได้เป็นอย่างมาก
โดยทั่วไปแล้ว ผ้าทนไฟมักถูกใช้ตัดเย็บเป็นยูนิฟอร์ม ชุดหมี หรือเสื้อช็อปในงานที่มีสะเก็ดไฟหรือความร้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น งานเชื่อม งานช่างไฟ งานหลอมโลหะ หรืองานอื่น ๆ ที่ต้องเข้าใกล้สถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง เพื่อเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
ด้วยเหตุนี้ ผ้ากันไฟจึงมีบทบาทอย่างมากในโรงงานอุตสาหกรรม โรงกลั่นน้ำมัน อู่ต่อเรือ หรืองานหลอมโลหะ และจำเป็นต้องเลือกโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่เน้นความปลอดภัย และเข้าใจในความต้องการเฉพาะทางเป็นพิเศษ
ผ้ากันไฟ มีคุณสมบัติอย่างไร ทำไมช่วยลดความเสี่ยงในงานช่างได้
ผ้ากันไฟแตกต่างจากผ้าทั่วไป เพราะมีคุณสมบัติเฉพาะที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความปลอดภัยในสภาวะที่เสี่ยงในสายงานอุตสาหกรรม คุณสมบัติของผ้ากันไฟหรือผ้าทนความร้อน มีดังนี้
- ไม่ลามไฟ หากผ้าเกิดการติดไฟ ไฟจะดับได้เองในเวลาสั้น ๆ โดยไม่ลุกลามไปยังจุดอื่น
- ทนต่ออุณหภูมิสูง ผ้าทนความร้อนสูง เหมาะกับงานที่ต้องสัมผัสความร้อนโดยตรง
- ไม่หลอมละลาย ผ้ากันความร้อนและไม่หลอมละลาย ช่วยลดอันตรายที่ไฟจะไหม้ลามติดผิวหนังได้
- น้ำหนักเบา เนื่องจากผู้ใช้ต้องสวมใส่เสื้อผ้ากันสะเก็ดไฟในระหว่างการปฏิบัติงาน ดังนั้น จึงควรต้องมีน้ำหนักเบา ใส่สบาย ไม่อึดอัด
- ทนทาน ผ้ากันความร้อนควรมีความทนทาน เพื่อให้คุ้มค่า มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ผ้ากันไฟมีกี่ประเภท เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
ผ้ากันไฟมีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้งาน การเลือกประเภทผ้าควรพิจารณาจากลักษณะงาน หรือความถี่ในการใช้งาน เพราะแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทำให้เหมาะกับงานในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกัน ดังนี้
ผ้าซิลิก้า
ผ้าซิลิก้า เป็นผ้าทนความร้อนสูงถึง 1000°C มีเนื้อผ้าที่ทอละเอียด ทนต่อการเสียดสีได้สูง และมีปริมาณซิลิก้าไม่น้อยกว่า 96% ผ้าชนิดนี้เหมาะกับงานหลอมโลหะ งานตัดเหล็ก งานเชื่อมเหล็ก และอุตสาหกรรมหนักอื่น ๆ ที่มีอุณหภูมิสูง
ผ้าใยแก้ว
ผ้าใยแก้วทนอุณหภูมิได้ประมาณ 550-600°C เนื้อผ้าประเภทนี้ทอขึ้นจากเส้นใยแก้ว มีความหนาแน่นสูง และมีการเคลือบสารกันไฟ ทำให้มีคุณสมบัติทนต่อสารเคมี ไม่ลามไฟ ไม่นำไฟฟ้า และไม่เป็นสนิม นิยมใช้เป็นผ้ากันสะเก็ดไฟจากงานเชื่อม หรือใช้ในงานป้องกันความร้อน
ผ้ากันไฟแบบไม่คัน
ผ้ากันไฟแบบไม่คัน มักจะเป็นผ้าที่ทำจากใยแก้วแล้วนำมาเคลือบด้วยสารต่าง ๆ เช่น ซิลิโคน, PVC, อะลูมิเนียมฟอยล์ เป็นต้น เพื่อให้ผ้ามีคุณสมบัติกันน้ำและป้องกันฝุ่นละออง เมื่อสวมใส่แล้วไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิว ผ้ากันความร้อนชนิดนี้มักใช้ในงานเชื่อมระดับเบาถึงปานกลาง ทนอุณหภูมิได้ประมาณ 260°C สามารถนำมาตัดเย็บเป็นชุดหมีหรือเสื้อช็อปที่ต้องสวมใส่เป็นเวลานานได้
ชุดหมี ผ้ากันไฟ จากผ้าเวสปอยท์ที่เหมาะกับงานอุตสาหกรรม
โรงงาน PMK Polomaker เชี่ยวชาญด้านการผลิตชุดเซฟตี้ทุกประเภท โดยเฉพาะชุดหมีผ้ากันไฟที่เหมาะกับช่างและผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมหนัก PMK รับผลิตชุดหมีจากผ้าเวสปอยท์ (Vespoint Cotton 100%) ซึ่งเป็นเนื้อผ้าที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีคุณสมบัติดังนี้
- กันไฟและทนความร้อนสูง คุณสมบัติที่โดดเด่นของผ้าทนไฟ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานช่างได้
- ระบายอากาศดี เนื้อผ้าเวสปอยท์สวมใส่สบาย ไม่อับชื้น
- ผิวสัมผัสนุ่มสบาย คุณสมบัตินี้จะช่วยให้สวมใส่แล้วไม่คัน หรือสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน
- ทนทาน ผ้าเวสปอยท์มีความหนา ทำให้ทนทานและใช้งานได้ยาวนาน
ผ้ากันไฟได้มาตรฐาน จาก PMK Polomaker ความปลอดภัยที่เชื่อถือได้
ผ้ากันไฟ คือวัสดุที่จำเป็นสำหรับการผลิตชุดทำงานในสายงานอุตสาหกรรม ความเข้าใจในคุณสมบัติและประเภทของผ้า จะช่วยให้สามารถเลือกใช้ได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ผ้าซิลิก้า ผ้าใยแก้ว หรือผ้าเวสปอยท์ ต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่เหมาะกับงานที่แตกต่างกัน
PMK Polomaker มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผ้าทนไฟหรือผ้ากันความร้อนที่ได้มาตรฐาน พร้อมเนื้อผ้าคุณภาพสูงที่มีให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัย และสวมใส่ได้อย่างสบาย อีกทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุนในการจัดซื้อได้ด้วย นอกจากนี้ PMK ยังมีบริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ ตัดเย็บ ไปจนถึงบริการหลังการขาย ที่พร้อมดูแลทุกท่านในทุกขั้นตอน สนใจสั่งผลิตเสื้อกับ PMK สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line: @pmkpolomaker
PMK โรงงานผู้ผลิตเสื้อผ้ายูนิฟอร์ม ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2015
