ผ้าคอตตอน คืออะไร รวมข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ

เสื้อผ้าคอตตอนเป็นหนึ่งในเส้นใยธรรมชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายทั่วโลก เพราะไม่ใช่แค่ใส่สบาย แต่ยังมีผ้าหลากหลายเกรด พร้อมขนาดเส้นด้ายให้เลือกหลากหลาย ผ้าคอตตอนแต่ละแบบเองก็มีคุณภาพที่แตกต่างกันออกไป สะท้อนถึงคุณภาพในการผลิตของเสื้อผ้าแต่ละชิ้นได้อย่างแท้จริง

บทความนี้มาพร้อมสาระดี ๆ ที่จะทำให้รู้จัก “ผ้าคอตตอน” กันให้มากขึ้น ทั้งที่มา คุณสมบัติโดดเด่น ข้อดี-ข้อจำกัด และเคล็ดลับในการเลือกใช้คอตตอนให้เหมาะกับงานผลิตเสื้อผ้าแต่ละประเภท พร้อมแนะนำประเภทผ้าคอตตอนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเสื้อที่ผลิตจะมีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่ต้องการ ไม่ว่าจะใช้ในงานแฟชั่น แบรนด์เสื้อยืด หรือผลิตเสื้อยูนิฟอร์ม

ผ้าคอตตอน คืออะไร มีกระบวนการผลิตอย่างไร?

ผ้าคอตตอน หรือ ผ้าฝ้าย คือผ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ จากทางโรงงานผลิตเสื้อผ้า ผ้าคอตตอนผลิตจากเส้นใยธรรมชาติของต้นฝ้าย โดยนำเส้นใยฝ้ายจากเมล็ดมาปั่นเป็นเส้นด้าย แล้วทอหรือถักเป็นผืนผ้า ผ่านกระบวนการฟอก ย้อม และตกแต่งผิว จนทำให้เนื้อผ้ามีสัมผัสที่นุ่ม เบาสบาย ไม่ระคายเคืองผิว ระบายอากาศได้ดี เหมาะกับอากาศร้อน หรือผู้ที่เหงื่อออกง่าย เสื้อผ้าคอตตอนจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

ผ้าคอตตอน มีข้อดีอะไรบ้าง?

ผ้าคอตตอน เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องการสวมใส่แล้วให้ความรู้สึกสบาย สัมผัสนุ่ม ละมุนผิว ยิ่งกว่านั้นยังมีข้อดีต่าง ๆ ดังนี้ 

• ระบายอากาศดี ไม่อับชื้น ด้วยโครงสร้างเส้นใยที่มีรูพรุนตามธรรมชาติ จึงระบายอากาศดีเยี่ยม ไม่เก็บเหงื่อ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทำเป็นเสื้อยืดทีมไว้สวมใส่ในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น
• บางเบา สวมใส่สบาย เสื้อผ้าคอตตอนให้ความรู้สึกโปร่งสบาย เหมาะกับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
• ไม่ขาดง่าย เส้นใยของผ้าคอตตอนมีความเหนียว ยืดหยุ่น ทำให้ไม่ฉีกขาดง่ายเหมือนผ้าชนิดอื่น
• ราคาเข้าถึงง่าย ด้วยความหลากหลายของเกรดเนื้อผ้า ทำให้มีตัวเลือกตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงระดับพรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลิตเสื้อยืดหรือยูนิฟอร์มในงบประมาณที่ควบคุมได้
• เหมาะกับการผลิตเสื้อยืดทุกประเภท ด้วยคุณสมบัติที่รองรับการสกรีนได้หลากหลายรูปแบบ จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในธุรกิจเสื้อยืด 

ผ้าคอตตอน มีข้อเสียอะไรบ้าง?

แม้ผ้าคอตตอนจะเป็นหนึ่งในวัสดุยอดนิยม แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการเช่นกัน ดังนี้

• ต้นทุนสูงกว่าผ้า TC และ TK มีราคาสูงกว่าผ้าเนื้อผสมอย่าง TC (Cotton + Polyester) และ TK (Polyester 100%)
• เสียรูปทรงได้ เมื่อผ่านการซักหรือรีดซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ตัวผ้าอาจหดตัวหรือเสียทรง โดยเฉพาะหากเป็นเนื้อผ้าเกรดต่ำ
• ยับง่าย รีดไม่เรียบ หากไม่ได้ผ่านการตกแต่งผิวหรือฟินิชชิ่งอย่างดี เสื้อผ้าอาจไม่เรียบและต้องรีดบ่อย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้เนื้อผ้ารีดง่ายและคงความเรียบได้นานยิ่งขึ้นแล้ว
• สีซีดเร็วกว่าที่ควร ผ้าคอตตอนบางเกรดมีแนวโน้มสีซีดจางเร็ว โดยเฉพาะหลังการซักบ่อยครั้ง สาเหตุหลักมักเกิดจากการเลือกใช้ผ้าเกรดต่ำหรือใช้เทคนิคการพิมพ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

ประเภทผ้าคอตตอน แบ่งตามขนาดเส้นด้าย

ผ้าคอตตอนสามารถแบ่งประเภทได้ตามขนาดความบางของเส้นด้าย โดยเบอร์ยิ่งสูงเนื้อผ้ายิ่งละเอียด ซึ่งแต่ละขนาดมีคุณสมบัติต่างกันดังนี้

เส้นด้ายเบอร์ 20 

เส้นด้ายขนาดใหญ่ เส้นใยเหนียว แข็งแรง ทนทาน ระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับเสื้อยืดที่เน้นความคงทน เช่น เสื้อยูนิฟอร์ม เสื้อกิจกรรมองค์กร เสื้อรุ่น เป็นต้น

สำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่มสบายควบคู่กับความทนทาน Ultra Zoft Cotton คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยการพัฒนาเนื้อผ้าให้มีสัมผัสนุ่มแบบเหนือระดับด้วยนวัตกรรมขัดผิวผ้า Micro Brushing จนนุ่มฟูพิเศษ ให้สัมผัสคล้ายกำมะหยี่ และคงความแน่นของเส้นด้ายเบอร์ 20 ได้อย่างลงตัว มอบประสบการณ์การสวมใส่ที่เหนือกว่า แม้ในวันที่ต้องเคลื่อนไหวตลอดวัน

เส้นด้ายเบอร์ 32

เส้นด้ายขนาดกลาง ให้สัมผัสนุ่ม เบาสบาย นิยมนำมาทำเสื้อยืดทั่วไปที่เน้นความโล่งโปร่ง ระบายอากาศได้ดี

Ultra Light Cotton คืออีกระดับของเสื้อผ้าคอตตอนที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์สำหรับสวมใส่ในประเทศไทย เนื้อผ้าละเอียด สบายผิว ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกคล่องตัวทุกครั้งที่สวมใส่ เหมาะอย่างยิ่งกับเสื้อยืดที่ต้องการภาพลักษณ์ดูดี พร้อมความสบายตลอดทั้งวัน

เส้นด้ายเบอร์ 40

เส้นด้ายขนาดเล็กที่โดดเด่นด้วยความสามารถในการระบายอากาศ นิยมใช้กับเสื้อยืดเด็กอ่อนหรือเสื้อยืดแบรนด์เนมที่ต้องการสัมผัสอ่อนโยนและความบางเป็นพิเศษ 

เส้นด้ายเบอร์ 41

เป็นเส้นด้ายที่บางและละเอียดมาก ผ้าจะเบาและบางเฉียบ มักใช้ในงานเฉพาะทาง เช่น เสื้อแบรนด์พรีเมียม หรือเสื้อผ้าที่เน้นความหรูหราในทุกสัมผัส

ประเภทผ้าคอตตอน ตามเกรดเส้นใย

กระบวนการผลิตเส้นใยผ้ามีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพของเสื้อผ้าคอตตอนโดยตรง เพราะส่งผลต่อความเรียบเนียน ความแน่น และความสม่ำเสมอของเนื้อผ้า เมื่อเส้นด้ายถูกนำไปทอเป็นผ้าผืนแล้ว จะสามารถแบ่งระดับคุณภาพของผ้าคอตตอนออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

ผ้าคอตตอนเกรด Cotton OE

ผ้าชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มเกรดเริ่มต้น มีราคาประหยัด เนื่องจากไม่ได้ผ่านกระบวนการคัดแยกเส้นใยอย่างละเอียดมากนัก เส้นด้ายที่ได้จึงมีลักษณะค่อนข้างหยาบและความสม่ำเสมอของเนื้อผ้าอาจน้อยกว่าผ้าประเภทอื่น เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น เสื้อยืดผ้าคอตตอนสำหรับกิจกรรมภายในองค์กร หรือผลิตเป็นเสื้อยืดราคาส่ง

ผ้าคอตตอนเกรด Cotton Semi

เป็นผ้าคอตตอนที่ผ่านการจัดเรียงเส้นใยให้มีความเรียบร้อยมากขึ้น ทำให้เนื้อผ้ามีความนุ่มและเรียบเนียนกว่าผ้าเกรดประหยัด ให้สัมผัสที่ดีและระบายอากาศได้เหมาะสม เหมาะสำหรับเสื้อยืดที่คุณภาพปานกลางและราคาเข้าถึงง่าย เช่น เสื้อรุ่น เสื้อทีม เสื้อสตาฟ เป็นต้น

ผ้าคอตตอนเกรด Cotton Combed

เนื้อผ้ายืดประเภทนี้ผ่านการคัดสรรเส้นใยอย่างละเอียด โดยใช้เครื่องหวีเส้นด้ายเพื่อให้ได้เส้นใยที่เรียงตัวสม่ำเสมอ และขจัดสิ่งปนเปื้อนหรือเส้นใยสั้นออกไป ทำให้เนื้อผ้ามีความเนียน นุ่ม และทนทานเป็นพิเศษ ให้สัมผัสที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ระคายเคือง และเหมาะกับการผลิตเสื้อแบรนด์ เสื้อแฟชั่น เสื้อสตาฟ หรือเสื้อโปโลบริษัทที่ต้องการภาพลักษณ์ดูดีและมีคุณภาพสูง

ผ้าคอตตอน vs ผ้าโพลีเอสเตอร์ ต่างกันอย่างไร?

ผ้าคอตตอน (Cotton) และผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester) เป็นวัสดุยอดนิยมที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว โดยคอตตอนเป็นเส้นใยธรรมชาติ ให้สัมผัสนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น และอ่อนโยนต่อผิว เหมาะสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามคอตตอนมักยับง่าย หดตัวได้เมื่อซักบ่อย และแห้งช้ากว่าผ้าสังเคราะห์ ขณะที่ผ้าโพลีเอสเตอร์ เป็นเส้นใยที่มีความทนทานสูง ไม่หด ไม่ยับ และแห้งเร็ว แต่ในบางกรณีอาจระบายอากาศได้ไม่ดีมากนัก ทำให้รู้สึกร้อนหรืออับชื้นได้ง่าย 

เพื่อดึงจุดเด่นของผ้าทั้งสองประเภทมาใช้ร่วมกัน จึงมีการพัฒนาผ้าคอตตอนผสม (Cotton + Polyester) ซึ่งนิยมในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าอย่างแพร่หลาย โดยปรับสัดส่วนตามจุดประสงค์ของการใช้งาน ดังนี้

• Cotton 100% : ใยผ้าจากธรรมชาติ สัมผัสละมุนอ่อนโยนต่อผิว ระบายอากาศได้ดี แต่ยับง่าย ทำให้ต้องเสียเวลารีดอยู่เสมอ
• Cotton 65% : Polyester 35% ให้สัมผัสนุ่ม ใกล้เคียงผ้าฝ้าย แต่ยังคงคุณสมบัติแห้งเร็ว ยับยากของโพลีเอสเตอร์ไว้ เหมาะสำหรับเสื้อยืดที่ต้องการใส่สบายแต่ดูแลรักษาง่าย
• Cotton 50% : Polyester 50% สมดุลระหว่างความนุ่มของคอตตอนกับความทนทานของโพลีเอสเตอร์ นิยมใช้ในเสื้อยูนิฟอร์ม เสื้อกิจกรรมที่ต้องการความคุ้มค่าทั้งด้านราคาและการใช้งาน
• Cotton 35% : Polyester 65% ผ้าเนื้อแน่น อยู่ทรงดี แห้งไวและทนต่อการซัก เหมาะสำหรับเสื้อผ้าที่ต้องใช้บ่อยในกิจกรรมกลางแจ้ง หรืองานที่ต้องการความทนทาน
• Polyester 100% : น้ำหนักเบา ยับยาก ทนทาน แต่ไม่ดูดซับเหงื่อและระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าผ้าที่ส่วนผสมของ Cotton

วิธีดูแลผ้าคอตตอนให้นุ่มนานเหมือนใหม่อยู่เสมอ

เสื้อคอตตอนเป็นผ้าเส้นใยธรรมชาติที่ต้องการการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาคุณภาพของเนื้อผ้า สี และรูปทรงให้คงทนสวยงาม ไม่ยับง่ายหรือหดตัวก่อนเวลาอันควร โดยมีวิธีดูแลดังนี้

• ซักด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง เพื่อป้องกันการหดตัวของผ้า
• เลือกใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงน้ำยาฟอกขาวหรือสารเคมีแรง
• ควรกลับด้านเสื้อก่อนซัก เพื่อถนอมสีและเนื้อผ้า
• หลีกเลี่ยงการขยี้แรงหรือซักรวมกับผ้าหยาบที่อาจทำให้เนื้อผ้าเสียหาย
• ตากในที่ร่มหรือบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท ไม่ควรตากแดดจัดเพราะอาจทำให้สีซีด
• หากรีดผ้า แนะนำให้รีดขณะผ้ายังหมาดเล็กน้อย และใช้ไฟปานกลาง
• เก็บเสื้อผ้าในที่แห้งและพับเรียบร้อย เพื่อรักษารูปทรงและไม่ให้เกิดรอยยับถาวร

ผ้าคอตตอนเกรดคุณภาพ พร้อมบริการครบวงจรแบบมืออาชีพตัวจริง ที่ PMK Polomaker

ผ้าคอตตอน หรือ ผ้าฝ้าย เป็นเส้นใยธรรมชาติที่โดดเด่นเรื่องความนุ่มสบาย ใส่แล้วละมุนผิว ระบายอากาศได้ดี น้ำหนักเบา แต่คอตตอนเป็นผ้าที่ยับค่อนข้างง่าย จึงต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสมและใส่ใจเพื่อช่วยคงรูปทรง สี และเนื้อสัมผัส ให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

หากต้องการสั่งผลิตเสื้อผ้า Cotton ที่มีเนื้อผ้าหลากหลาย พร้อมระบบการผลิตแบบครบวงจรในที่เดียว PMK Polomaker คือพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการผลิต และความเข้าใจด้านเนื้อผ้าอย่างลึกซึ้ง พร้อมบริการอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่ให้คำปรึกษาเบื้องต้น การออกแบบ ผลิต จนถึงบริการหลังการขาย มั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพตามมาตรฐาน สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @pmkpolomaker

PMK โรงงานผู้ผลิตเสื้อผ้ายูนิฟอร์ม ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2015