หลายคงสงสัยว่าทำไมเนื้อผ้าคอตตอนถึงมีราคาที่สูงกว่าเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์? ทั้งสองเนื้อผ้านี้ทำมาจากอะไร? แล้วเราควรเลือกเสื้อที่ทำจากเนื้อผ้าอะไรดี? ต้องบอกก่อนว่าเนื้อผ้ามีข้อดีแตกต่างกันอยู่ที่บุคคล บางคนอาจจะเป็นคอตตอน(Cotton) เลิฟเวอร์ บางคนอาจจะชอบคุณสมบัติของโพลีเอสเตอร์(Polyester) ซึ่งขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ว่าชอบแบบไหน วันนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะมาแนะนำเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) กับ เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) ว่าทั้ง 2 ประเภทนี้คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร มีคุณสมบัติอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจของทุกท่าน
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
- เนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) คืออะไร
- เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) คืออะไร
- เนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) กับ เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) แตกต่างกันอย่างไร
- สรุปข้อดีของเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton)
- สรุปข้อดีของเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester)
1.เนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) คืออะไร
เนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) ผลิตมาจากเส้นใยธรรมชาติ โดยการนำปุยฝ้าย หรือที่เรียกว่าใยเซลลูโลสที่ได้จากดอกของฝ้าย เป็นเส้นเล็กๆ นำมาปั่นให้เป็นเส้นด้ายแลัวนำมาทอเป็นผืน ซึ่งคุณภาพของผ้าที่ได้นั้นจะแตกต่างกันออกไป จะขึ้นอยู่ความหนาของเส้นด้าย การเรียงตัวของเส้นด้าย รวมถึงความบริสุทธิ์ของเส้นด้ายอีกด้วย โดยลักษณะของผ้าคอตตอน(Cotton) จะมีความนุ่ม ไม่หยาบกระด้างสามารถระบายอากาศได้ เนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) แบ่งเป็นหลายเกรด แต่ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะแบ่งเป็น 3 เกรดหลักๆ ดังนี้
- Cotton OE เป็นคอตตอนที่มีคุณภาพต่ำที่สุด หาได้ทั่วไปตามท้องตลาด จะมีราคาถูกโดยผ้าคอตตอนชนิดนี้จะมีเนื้อสัมผัสหยาบแข็งกระด้าง ขาดง่าย เพราะผ้าคอตตอนเกรดนี้ (Cotton OE) ไม่ได้รับคัดคุณภาพของเส้ยใยฝ้ายนั้นเอง
- Cotton Semi เป็นคอตตอนที่มีคุณภาพดี ราคาอยู่ในระดับปานกลาง เนื้อผ้าสัมผัสดีขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับ Cotton OE โดยผ้าคอตตอนชนิดนี้จะมีสัมผัสที่นุ่มขึ้นมาอีกระดับ มีปมที่ขาดเล็กน้อยในเนื้อผ้า แต่ไม่มากเท่ากับเกรดผ้า Cotton OE
- Cotton Comb เป็นคอตตอนที่มีคุณภาพที่ดีมาก เพราะผ้าคอตตอนเกรดนี้ผ่านกระบวนการคุณภาพโดยการหวีเส้นใยโดยเครื่องจักร จะได้เส้นใยที่ยาวสวยไม่มีปมที่ขาดในผืนผ้าเกรดนี้ สัมผัสนุ่มยิ่งขึ้น ไม่มีความหยาบกระด้าง และจะมีความทนทานที่สุด ขาดยาก เพราะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นกว่าเกรดอื่นๆ เพื่อคุณภาพของผ้า ผ้าเกรดนี้จึงมีราคาที่สูงที่สุดนั้นเอง
2.เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) คืออะไร
เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester Fabric) เป็นชนิดเนื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุพลาสติกโพลีเอสเตอร์ หรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆว่า โพลีเอสเตอร์(Polyester) คือเส้นใยสังเคราะห์ที่ทำมาจากพลาสติก จึงทำให้เส้นใยโพลีเอสเตอร์(Polyester) ดูแลง่าย ทนทาน มีความเหนียว ทนทาน มีความยืดหยุ่น ไม่ยับง่าย สามารถคงรูปทรงได้เป็นอย่างดี ทนต่อความร้อนได้สูง แถมสามารถนำไปผลิตได้หลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้ากีฬา เสื้อโปโล ชุดยูนิฟอร์ม เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์ก็ถือว่าเป็นที่นิยมไม่แพ้ผ้าคอตตอน(Cotton) เช่นกัน เนื่องจากผ้าคอตตอน(Cotton) จะหายากกว่าผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) จะให้เข้าใจได้ขึ้นก็คือ ผ้าโพลีเอสเตอร์(Cotton) สร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนเนื้อผ้า(Cotton) นั้นเอง
แนะนำ
ถ้าอยากรู้ว่าผ้าคอตตอน (Cotton) กับโพลีเอสเตอร์ (Polyster) คืออะไรเพิ่มเติม คลิกดูวิดีโอ ข้างล่างนี้ได้เลย
3.เนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) กับ เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) แตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างของเนื้อผ้าทั้ง 2 ประเภทนี้ แตกต่างกันตั้งแต่ ต้นกำเนิด การดูแล คุณสมบัติ รวมไปถึงราคา ดังนี้
- ต้นกำเนิดของเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) และเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester)
- เนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ ผลิตจากเส้นใยฝ้าย ที่นำมาปั่นจนเกิดเป็นเส้นด้าย จากนั้นก็นำมาทอให้เป็นผืนผ้า
- เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่ทำมาจากพลาสติก กระบวนการผลิต จะใช้กรรมวิธีทางเคมี ปิโตรเคมี เอทานอล
การดูแลรักษา แน่นอนว่าเมื่อต้นกำเนิดของเนื้อผ้าทั้ง 2 ประเภท นั้นแตกต่างกัน การดูแลรักษาก็ย่อมแตกต่างกัน เนื่องจากเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) เป็นเส้นใยสังเคราะห์ ที่มนุษย์สามารถสร้างได้จึงสามารถควบคุมให้ตรงกับความต้องการได้ ต่างจากเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) เป็นเส้นใยที่เกิดมาจากธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด จึงอาจจะต้องได้รับการทะนุถนอมมากกว่าเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester)
คุณสมบัติหลักๆที่เห็นความแตกต่างได้ชัดของเนื้อผ้าทั้ง 2 ประเภทนี้คือ
- เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) จะมีคุณสมบัติผ้าแห้งไวกว่าเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) ในขณะที่เนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) จะมีคุณสมบัติที่สามารถระบายอากาศและซับเหงื่อได้ดีกว่าเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester)
- เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) จะมีน้ำหนักเบา รีดง่าย ยับค่อนข้างยาก ส่วนผ้าคอตตอน(Cotton) นั้นเนื้อผ้ามีน้ำหนักดี และมีสัมผัสหนานุ่มสบายตัวกว่านั้นเอง
- ความเหนียวทนทานของเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) กับเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton)นั้นแตกต่างกัน เนื่องจากเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester)นั้นทำจากเส้นใยสังเคราะห์ผลิตด้วยกรรมวิธีที่ช่วยให้มีความเหนียวแน่น ทนทานกว่าเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) เพราะเป็นเส้นใยที่ทำจากธรรมชาตินั้นเอง
- แน่นอนว่าเรื่องราคาของเนื้อผ้าทั้ง 2 ประเภทนี้ต่างกันอยู่แล้ว เนื่องจากต้นทุนของทั้ง 2 นั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) ทีมาจากธรรมชาติจะมีกระบวนการในการผลิตมากกว่าจึงมีราคาที่สูงกว่าเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์ที่เป็นเส้นใยสังเคราะห์จึงมีราคาที่ประหยัดกว่านั้นเอง
4.สรุปข้อดี–ข้อด้อยของเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton)
ข้อดีเด่นๆ ของเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) คือ เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าที่เป็นเนื้อผ้าคอตตอนจะรู้สึกนุ่มสบายผิว ซับเหงื่อและระบายอากาศได้ดี สามารถซักได้ด้วยผงซักฟอก และซักรีดที่อุณหภูมิสูงได้
ข้อดีเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton)
- เนื้อผ้านุ่ม เนียนสวย สวมใส่สบาย ปัจจุบันกระบวนการผลิตผ้าคอตตอนมีคุณภาพสูงจึงทำให้เนื้อผ้านุ่มเบาสบายนั้นเอง
- เพราะเป็นเส้นใยธรรมชาติจะทำให้ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวผู้สวมใส่
- เนื้อผ้าทนไม่ขาดง่าย ทิ้งความกังวลที่จะต้องมานั่งซักมือไปได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะรีดเสื้อไม่ได้ หรือซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าไม่ได้ เพราะเสื้อที่ทำจากคอตตอนสามารถซักรีดได้ในอุณหภูมิที่สูง
- ซับเหงื่อและระบายอากาศได้ดี ด้วยความที่ทำมาจากผ้าฝ้ายธรรมชาติ จึงมีรูพรุนซึ่งตรงนี้คือจุดที่ทำให้เสื้อที่ทำจากผ้าคอตตอนระบายอากาศได้ดี ใครชอบเสื้อที่สัมนุ่ม ระบายอากาศได้ ต้องชอบเสื้อที่จากผ้าคอตตอนแน่นอน อีกทั้งยังสามารถซับเหงื่อได้ดีอีกด้วย
ข้อด้อยเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton)
- ถ้าหากซักบ่อย เนื้อผ้ามักจะหด ไม่อยู่ทรง เนื่องจากต้นกำเนิดมาจากธรรมชาติที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เมื่อใส่ไปนานๆ แล้วมีการซักบ่อยๆ เนื้อผ้าอาจจะมีการย้วยบ้าง หดบ้าง อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับเกรดของผ้าคอตตอน(Cotton) ด้วย
- เสื้อผ้าที่ทำจากเนื้อผ้าคอตตอนะมีความ ยับง่าย รีดไม่เรียบ ถ้าเราใส่เสื้อที่ทำจากผ้าคอตตอนเป็นเวลานานๆ เสื้อจะยับง่าย แต่ปัญหานี้ถูกแก้ไขได้แล้วด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้เสื้อที่ทำจากเนื้อผ้าคอตตอนไม่ยับง่าย อยู่ทรง
- ราคาสูงกว่าผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) ถ้าหากใครอยากทำเสื้อยืดที่ใช้ผ้าคอตตอนเกรดดีที่สุด(Cotton Comb) ราคาค่อนข้างสูงพอสมควร แพงกว่าผ้าโพลีเอสเตอร์ ที่นิยมนำไปทำเป็นเสื้อโปโล อย่างไรก็ตามผ้าฝ้ายมักจะมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน จึงที่ต้องการในตลาด
5.สรุปข้อดี–ข้อด้อยของเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester)
ข้อดีของเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester)
เนื่องจากเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์ทำมาจากพลาสติกมันจึงได้รับคุณสมบัติจากพลาสติกติดมาด้วยนั้นก็คือความทนทาน โครงสร้างผ้ามีความแข็งแรงทนทานสูงจึงทำให้เนื้อผ้าประเภทนี้ทนทาน และเหนียวกว่าเนื้อผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติอย่างเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูงกว่าเมื่อนำมาเทียบกับเนื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยฝ้ายหรือคอตตอนนั้นเอง นอกจากนี้ยัง มีคุณสมบัติที่แห้งไวกว่า สามารถกันน้ำ กันความชื้นได้ดี น้ำหนักเบา ยับยาก อีกด้วย
ข้อด้อยของเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester)
เนื้อผ้าโพลีจะดูดซับความชื้นไม่ค่อยดี จึงทำให้เสื้อที่ทำจากเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) นั้นจะรู้สึกร้อนกว่าเมื่อเทียบกับเสื้อที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ จึงทำให้ไม่สะดวกสบายในช่วงอากาศร้อน เนื่องจากมีความหนาแน่นสูง เคยมีแพทย์แนะนำว่าไม่ควรใส่เสื้อที่ทำจากเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) สำหรับคนที่มีเหงื่อออกมาก อีกทั้งเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์อาจทำให้ระคายเคืองผิวได้บ้าง สำหรับคนที่แพ้เนื้อผ้าชนิดนี้
สรุป
จากข้อมูลความแตกต่างกันของเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) กับเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) ข้างต้นทั้งหมดที่กล่าวไป สรุปได้ว่า เนื้อผ้าทั้ง 2 ประเภทนี้มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน หรือเลือกให้เหมาะกับลักษณะองค์กรของคุณ เช่น องค์กรที่ต้องใช้ความสะอาดสูง เช่น โรงพยาบาล คลินิก ที่ต้องมีการฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนสูงแนะนำให้เลือกเป็นเนื้อผ้าคอตตอนในการสั่งผลิตชุดยูนิฟอร์ม เพราะเนื้อผ้าคอตตอน(Cotton) จะทนต่ออุณหภูมิของน้ำได้ดีกว่า แต่ถ้าเป็นองค์กรทั่วไปที่มีจำนวนคนเยอะๆ เลยจำเป็นต้องประหยัดงบประมาณแนะนำให้เลือกเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์(Polyester) ในการผลิตชุดยูนิฟอร์มนั้นเอง
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ส่วนครั้งหน้าแอดมินจะมาแชร์ข่าวสารอะไรดีๆ อีกฝากติดตามบทความครั้งต่อไปด้วยนะคะ